วิธีการดูแลรักษาอัญมณีชนิดต่าง ๆ

วิธีการดูแลรักษาอัญมณี

เเนะนำวิธีการดูแลรักษาอัญมณีชนิดต่าง ๆ

 

อัญมณี เป็นเครื่องประดับที่ทรงคุณค่า และมีความสวยงาม จึงต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้สีสันของตัวอัญมณีดูหมองหม่นลงจากเดิม และยังคงความทอแสง เจิดจรัสทุกครั้งที่นำกลับมาสวมใส่ แน่นอนว่าอัญมณีแต่ละชนิดนั้นมีคุณสมบัติต่าง ๆ ของแร่ที่แตกต่างกันจึงทำให้อัญมณีแต่ละชนิดมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกันด้วย ยิ่งอัญมณีบางชนิดที่มีความบอบบางก็ยิ่งต้องได้รับการดูแลทะนุถนอมเป็นพิเศษ โดยอัญมณีแต่ละชนิดนั้นจะมีวิธีการดูแลรักษาดังนี้

วิธีการดูแลรักษาอัญมณี

1.เพชร

เพชรเป็นหนึ่งในอัญมณีที่ล้ำค่าที่ผู้คนต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยความสวยงามทอแสงส่องประกายระยิบระยับพร้อมราคาที่สูงลิบทำให้เพชรเป็นอัญมณีที่ใครหลาย ๆ คนอยากจะมีเอาไว้ครอบครองเป็นเจ้าของ ยิ่งไปกว่านั้นเพชรยังมีกิตติศัพท์ด้านความแข็งแรงจนได้ชื่อว่าเป็นสิ่งที่แข็งที่สุดอันดับหนึ่งในบรรดาสสารทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกใบนี้ เพราะนอกจากจะมีความทนทานต่อแรงประทะ แรงบดขยี้แล้ว เพชรยังทนต่อความร้อน ทนต่อสภาพกรด-ด่าง และแอลกอฮอลล์ได้อีกด้วย ส่วนวิธีการเก็บรักษาแนะนำให้เก็บเครื่องประดับที่มีส่วนประกอบของเพชรแยกออกจากกัน ไม่ควรนำมาเก็บไว้รวมกันเพราะเหลี่ยมของเพชรอาจจะขูดขีดกันเองทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้เนื่องจากเป็นสสารที่มีคุณสมบัติที่แข็งเทียบเท่ากันจึงสามารถทำให้เกิดรอยขึ้นได้

  • วิธีการทำความสะอาดเพชร

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าเพชรเป็นสสารที่มีความแข็งมากที่สุด จึงทำให้การทำความสะอาดเพชรสามารถทำความสะอาดได้ด้วยการนำแอลกอฮอลล์มาเช็ดเพื่อละลายสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนตัวเพชรให้ออกไปได้ง่าย ๆ จากนั้นให้นำไปล้างด้วยน้ำเปล่าสะอาด และเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ ก็เพียงพอแล้ว หากใช้แอลกอฮอลล์แล้วยังรู้สึกว่าไม่สะอาดเพียงพอก็สามารถใช้โซเดียม คาร์บอเนตผสมน้ำและนำเพชรไปต้มประมาณ 10-20 นาที แล้วจึงล้างให้สะอาดก็สามารถทำได้เช่นกัน และหากรู้สึกว่าการทำความสะอาดเองเป็นเรื่องที่ยุ่งยากร้านเพชรหลาย ๆ ร้านก็มีบริการทำความสะอาดเครื่องประดับที่ทำจากเพชรด้วยเครื่องล้างระบบอัลตราโซนิกที่ช่วยทำให้ผงเล็ก ๆ หลุดออกจากเครื่องประดับออกมาได้โดยง่าย

วิธีการดูแลรักษาอัญมณี

2.พลอย

พลอยเป็นอัญมณีที่มีอยากหลายแบบ และมีคุณสมบัติความแข็ง ความเหนียวและความเปราะแตกต่างกันอีกด้วย การดูแลรักษาพลอยจึงมีความแตกต่างกัน วิธีการดูแลรักษาอัญมณี โดยเฉพาะพลอยที่มีความแข็งต่ำ ควรสวมใสด้วยความระมัดระวังเป็นวิเศษเพราะเนื้อพลอยจะมีความเปราะ ถ้าไปกระทบกับสิ่งที่มีความแข็งกว่าก็อาจจะทำให้เกิดริ้วรอย หรืออาจทำให้พลอยแตกร้าวได้เลยทีเดียว

  • วิธีการทำความสะอาดพลอย

วิธีการทำความสะอาดพลอยด้วยตัวเองเบื้องต้นที่เหมาะสมที่สุด คือ แช่น้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ เพียงแค่นั้น หากพอมีเวลาแนะนำให้ทางร้านเพชรช่วยทำความสะอาดให้ ล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดพลอยจะดีที่สุด ข้อควรระวัง คือ ห้ามล้างพลอยด้วยน้ำร้อนเด็ดขาด เพราะความร้อนจะทำให้น้ำที่แทรกอยู่ในเนื้อพลอยระเหยออกไปจนส่งผลให้ความแวววาวของผิวพลอยลดลงได้ และไม่ควรเก็บพลอยด้วยวิธีการแช่ไว้ในน้ำมัน เพราะจะทำให้ฝุ่นละอองจับเกาะที่ตัวพลอยได้ง่ายเมื่อทำการเช็ดทำความสะอาดฝุ่นผงที่เกาะอยู่ก็จะทำให้เกิดการเสียดสี เกิดการขูดขีดของผิวพลอยส่งผลให้ตัวพลอยมีความแวววาวน้อยลงได้นั่นเอง

วิธีการดูแลรักษาอัญมณี

3.ไข่มุก

ไข่มุกเป็นอัญมณีอีกชนิดหนึ่งที่ต้องได้รับการดูแลรักษาเป็นพิเศษ เพราะเป็นอัญมณีที่มีความบอบบางมาก โดยวิธีการดูแลรักษาก็ คือ ห้ามไม่ให้ไข่มุกถูกสารเคมีทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม หรือสเปรย์ต่าง ๆ เพราะสารเหล่านี้ จะทำให้ความแวววาวของไข่มุกลดลงได้ ดังนั้นเวลาที่สาว ๆ แต่งตัวฉีดพรมน้ำหอมจึงต้องคอยระวังเป็นพิเศษ ไม่ควรฉีดน้ำหอมตรงบริเวณที่จะต้องสวมเครื่องประดับที่ทำจากไข่มุกเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นในขณะที่สวมใสก็ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้ไข่มุกไปโดนถูกกับวัตถุที่มีความแข็งกว่า นอกจากนี้ยังไม่ควรเก็บไข่มุกรวมกับอัญมณีชนิดอื่น ๆ เพราะเนื้อของไข่มุกมีความอ่อนมาก ซึ่’อาจทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายนั่นเอง

  • วิธีการทำความสะอาดไข่มุก

เราสามารถทำความสะอาดไข่มุกด้วยตัวเองก่อนนำมาสวมใสได้ด้วยการนำผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำสะอาดมาเช็ดทำความสะอาด หรือหลังจากสวมใส่เครื่องประดับมุกแล้วก็ให้นำมาแช่น้ำสะอาดไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วเช็ดเช็ดด้วยผ้านุ่ม ๆ ให้แห้ง

วิธีการดูแลรักษาอัญมณี

4.หยก

หยกเป็นอัญมณีที่ค่อนข้างบอบบาง แตกง่าย สามารถเกิดรอยร้าวภายในได้ง่าย ไม่ทนต่อกรดด่าง และไม่สามารถทนต่อความร้อนได้ ดังนั้นความร้อนจึงถือได้ว่าเป็นอัตรายต่อหยกเป็นอย่างมาก ควรหลีกเลี่ยงห้ามให้หยกถูกความร้อนเด็ดขาด และควรหลีกเลี่ยงระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระแทบในขณะที่กำลังสวมใสเพราะมันอาจทำให้หยกแตก หรือเกิดรอยร้าวได้เลยทีเดียว

  • วิธีการทำความสะอาดหยก

วิธีการทำความสะอาดเพื่อให้หยกคงความแวววาวเป็นพิเศษได้ คือ ให้นำหยกแช่ในน้ำโซเดียมสีขาวที่เจือจาง จากนั้นให้นำมาเช็ดถูเบา ๆ เท่านี้ก็จะช่วยให้หยกดูมีความแวววาวขึ้นคล้ายการเคลือบเงานั่นเอง ข้อควรระวัง คือ เมื่อผ่านการทำความสะอาดด้วยกรรมวิธีนี้แล้วควรหลีกเลี่ยงไม่ให้หยกโดนความร้อนเพราะจะทำให้โซเดียมที่เคลือบผิวอยู่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ทำให้หยกดูไม่สวยงามอย่างที่มันควรจะเป็น

ติดตามเราได้ที่

Facebook : Hong Jewelry แหวนเงิน พลอยนำโชค เครื่องประดับเงินแท้
Line : @hfjewelry

Leave a Reply

Your email address will not be published.